[Part 1] Annapurna Base Camp (2023)


Annapurna Base Camp (ABC) เป็นทริปที่จองไว้ตั้งแต่ช่วงกันยา 2019 แล้วเดินทางเดือนเมษา 2020 แต่อย่างที่ทุกคนรู้กันว่าปลายปีช่วงธันวามีการระบาดของ Covid19 เลยทำให้ทริปนี้ต้องเลื่อนไปก่อนจนปีนี้ ปี 2023 ก็ได้ไปสักที!!! 3 ปีที่ไม่ได้ไปไหนในที่สุด TT

ทริปนี้เรามีกัน 2 คนคือเรากับนัท จองเป็น private group ผ่าน Agency ที่เนปาล เราจองของ Adventure magic treks คุยผ่าน WhatsApp สะดวกและง่ายดี จริงๆนัทเป็นคนคุยให้ทุกอย่างด้วยความไม่เก่งภาษาอังฤษของนี่ 🥲 เราเลือกแบบ 14 Days ABC + Poon hill เพราะไหนๆก็ไปแล้วอยากแวะ Poon hill ด้วย แต่ถ้าใครไม่อยากเดินอ้อมไป Poon hill ก่อนแล้วตรงขึ้น ABC เลยก็จะมีทริปแบบ 9 วัน ล่าสุดเห็นคนไทยจัดทัวร์แบบ ABC + Mardi Himal ด้วยเจ๋งดีลองๆไปดูรีวิวหลายๆที่ดูค่ะ

Day 1 (1 April 2023) :

วันออกเดินทางจากไทย เราจอง flight ของ Thai smile (ปัจจุบันเป็นการบินไทยแล้ว) Bangkok (10:15 AM) to Kathmandu (12:25 PM) เหตุผลที่เลือก Thai smile ทั้งที่ก็มีสายการบินอื่นถูกกว่าเพราะเราไปเจอในกลุ่มเดินป่าว่าของสายการบินอื่นคนเจอเคสกระเป๋าไม่ตามมาหลายโพสมากเลยกลัว แค่คิดว่าต้องซื้ออุปกรณ์เดินป่าใหม่ก็เศร้าล่ะ แต่ตอนจัดกระเป๋า เพื่อความชัวร์นี่ก็เอาอุปกรณ์สำคัญที่สามารถเอาขึ้นเครื่องได้ติดตัวไว้นะเผื่อซวยจริงๆ เช่นพวก รองเท้าเดินป่า ชุดเดินป่า (ใส่ชุดเดียวทั้งทริป 😆) underwear งี้

อันนี้ก่อนออกจากไทยขอให้ภาพเล่าเรื่องค่ะ เพื่อนชั้นจะรอดจนจบทริปใช่ป่ะ 😂

อาหารบนเครื่องมีให้ทุกที่นั่งสามารถเลือกได้ว่าจะกินเมนูไหนตอนกดจองตั๋ว พะแนงอร่อยดีแต่ของหวานที่เป็นขนมอินเดีย(หรือป่าว?) หวานไปสำหรับนี่เลยกินไปคำเดียวแล้วพอ 😢

ลืมบอกว่านี่ยื่นขอ VISA Nepal จากที่ไทยมาเรียบร้อยแล้ว VISA 15 Days ปัจจุบันราคา 1200 บาท ก่อนไปยื่น VISA ที่สถานทูตต้องไปกรอกข้อมูลใน web ของ Nepal immigration พร้อม upload รูปหน้าตรงของเราก่อนนะคะ แล้วเราก็ Print ใบที่ได้ไปยื่นที่สถานทูตพร้อม Passport อีกที รอประมาณ 3 วันก็ไปเอา Passport คืนค่ะ

หน้าตาเอกสารที่เอาไปยื่นให้สถานทูตอันนี้ของปี 2024 ที่เราเพิ่งยื่นไปเมื่อต้นปี (ไปเนปาลทุกปีจริงๆ 😅)

กลับมาต่อเมื่อมาถึงเนปาลก็จะมีคนจาก Adventure magic treks มารับเราเขาจะถือป้ายไว้ตรงทางออกว่ามาจาก Adventure magic treks เราก็เดินไปหาเขาได้เลย เขาก็จะพาเราไปที่รถ

ขอเตือนไว้เลยว่าอย่าให้ใครยกกระเป๋าให้เราเด็ดขาด นี่ก็โดนเพื่อนที่เคยไปมาเตือนแบบนี้แล้วพอถึงที่รถก็มีคนเดินมาจะยกกระเป๋าให้เราใส่ท้ายรถ เราเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนของทาง Agency สรุปไม่ใช่ ใครก็ไม่รู้พอเขายกให้เราเสร็จก็คือจะตื้อขอ Tip ไม่หยุดนัทก็เลยให้ไป 20 บาทเงินไทย 55555555 หน้าเขาก็ดูไม่พอใจหน่อยๆ นี่กับนัทก็รีบปิดประตูรถหนี งงมาก ณ จุดๆนั้น ถามว่าทำไมคนของ Agency ไม่ช่วยอะไรเลยนี่คิดว่าเขาคงยุ่งไม่ได้ เหมือนแบบก็เจ้าถิ่นอาชีพของคนในนั้นมั้ง อันนี้เดาเอง

ตอนนั่งในรถคือเพิ่งมารู้ในรถว่าคนที่มารับเรา(ข้างๆคนขับ) คือไกด์ที่จะพาเราขึ้นเขา ชื่อ Shiva(ซีว่า) เพิ่งอายุ 28 เอง เด็กมากตอนเจอครั้งแรกเลยไม่คิดว่าเป็นไกด์ไง 😂

และแล้วก็มาถึงที่พักคืนแรกใน Kathmandu ห้องดีนะ ห้องน้ำก็ดี ซีว่าก็ให้เราเอาของขึ้นไปเก็บบนห้องแล้วก็นัดเวลาเจอกันอีกทีตอนเย็นๆ ซีว่าจะพาไปเช่าถุงนอนกับ Down Jacket (ทาง Agency จ่ายค่าเช่าให้มันรวมอยู่ในทริปล่ะ)

ห้องพักที่เนปาลแปลกอย่างส่วนใหญ่ไม่มีแบบเตียงคู่ที่เท่ากันเลย จะเป็นเตียงใหญ่ 1 เตียงเล็กอีก 1 เหมือนสำหรับ 3 คน เสมอ นี่เลยตกลงกับนัทว่าสลับกันนอนเตียงใหญ่คนละคืนนะ

ตกเย็นซีว่าก็พาไปร้านเช่าถุงนอนกับเสื้อดาวน์เพื่อไปลองไซส์ อยากบอกว่าแอบมีกลิ่นนิดนึง ส่วนตัวนี่กับนัทเฉยๆ ใช้ได้แต่ถ้าใครไม่โอเคก็เตรียมมาเองหรือหาซื้อที่ Kathmandu ก็ได้ ถุงนอนที่เช่าเป็นแบบ -20 กับเสื้อดาวน์น่าจะ -20 เหมือนกันมั้งจำไม่ได้ หลังจากได้ถุงนอนกับเสื้อแล้ว ซีว่าก็พาไปซื้อยาฆ่าเชื้อที่ใส่ในน้ำกิน (หลังจากเดินขึ้นไปสูงๆแล้วน้ำกินจะไม่สะอาด ยกเว้นน้ำที่ต้มแล้ว) แล้วก็พามาส่งที่ห้องเอาของมาเก็บ ซีว่าก็ถามนะว่าจะให้พาเที่ยวหรือป่าว แต่นี่กับนัทก็เลือกไปกันเอง หลังจากเก็บของ + แลกเงินเนปาลกับทาง Agency (เรทดีกว่าแลกที่ร้านในเนปาล) พวกเราก็ออกไปหาอะไรกินกัน กับเดินเที่ยวใน Kathmandu

ไม่ได้ถ่ายก่อนกิน 😂

เฟรนฟรายทุกมื้อ ชอบมาก

นัทผู้หนาวเหน็บ งงมากหนาวไรขนาดนั้น 555555

บรรยากาศในเมือง Kathmandu

ปล. Momo ที่เนปาลอร่อยยยยยมากกกกกกกกก กินกับน้ำจิ้มสีส้มๆ ชื่ออะไรไม่รู้คือเริ่ด อยากให้ทุกคนไปลอง

Day 2 (2 April 2023) :

จำได้ว่าออกจากโรงแรมประมาณ 06:30 น. เพื่อขึ้นรถบัสไป Pokhara ต่อ เมื่อวานตอนเย็นมีบอกทางโรงแรมให้เตรียมแพคอาหารมื้อเช้าเพื่อไปกินบนรถด้วย รถออกกี่โมงไม่แน่ในน่าจะ 07:30-08:00 ไม่เกินนี้

เป็นรถแอร์นะคะที่นั่งก็โอเคเหมือน ปอ.1 บ้านเรา ทุกคนรู้จัก ปอ.1 กันใช่ไหม 😂 ส่วนใหญ่บนรถเป็นนักท่องเที่ยวที่จะไปเดินเขาทั้งนั้นนะคิดว่า บนรถไม่มีห้องน้ำแต่ก็จะมีจอดแวะระหว่างทางเรื่อยๆค่ะ แล้วก็มีแวะจุดพักทานข้าวกลางวัน ความทรงจำคือ หลับ หลับ ตื่น หลับ หลับ หลับ ตื่น นั่งรถไปเกือบ 10 hrs ได้ ทรมานมากกกกกกกกได้แต่คิดว่าทำไมไม่นั่งเครื่องบินครึ่งชั่วโมงถึงให้มันจบๆ ช่วงที่เราไปเขากำลังก่อสร้างถนนตลอดทางเลยทำให้รถติดมากๆๆๆๆๆ ไม่รู้ตอนนี้สร้างเสร็จหรือยัง ใครจะไปลองเช็คกับ Agency ดูค่ะ หลายคนก็ไม่กล้านั่งสายการบินภายในประเทศของเนปาลเพราะข่าวเครื่องบินตกมีทุกปี ถ้าไม่ทำถนนคิดว่า 6 hrs อาจจะถึงค่ะ

สภาพฉันคือหลับทั้งทางจริงๆ กับนัทผู้หลับยากรถมันเขย่าตลอดทาง ซีว่ายังบอกว่านี่คือ Dance Bus 🤣 ถามว่าทำไมถึงใส่ผ้าบัพนอน อยากบอกว่าฝุ่นเยอะมากกกกต่อให้นั่งรถแอร์ฝุ่นก็เข้ามาในรถได้ค่ะ ด้วยความที่เขากำลังทำทางตลอดทางที่เรามา แล้วอยู่แบบนี้ 10 hrs น่ะ สภาพพพ

พอถึง Pokhara ซีว่าก็พานั่ง Taxi? ที่ดีลกันมาแล้วมาที่โรงแรม โรงแรมดีมากนะก่อนมาไม่คิดว่าที่พักจะดูดีแบบนี้

แน่นอนว่าวันนี้เราได้นอนเตียงเล็ก 😂 ห้องน้ำดีมากๆ วิวหน้าห้องพัก

มาถึงที่พักหกโมงเย็นหลังจากเอาของไปเก็บบนห้องก็ออกไปหาข้าวเย็นกินกัน นี่กับเพื่อนคือเดินแบบสุ่มนะเห็นร้านดูน่ากินก็ลุยเลย แล้วคือร้านนี้อร่อยจริงอร่อยทุกอย่างตอนสั่งก็ไม่ชัวร์เหมือนกันว่าของที่ได้จะหน้าตาแบบไหนด้วยซ้ำ ที่ชอบสุดๆคือน้ำปั่น โอ้ยชอบมาก ชื่อร้าน Marwadi Restaurant Pokhara Lakeside ไปลองกันได้ ถ้าใครชอบกินอาหารอินเดียน่าจะชอบร้านนี้นะ

ค่าเสียหายทั้งหมดคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 400 บาท

หลังจากกินเสร็จแล้วก็ออกไปเดินซื้อโซ่ที่ที่สวมรองเท้าสำหรับเดินบนพื้นหิมะ ส่วนตัวชอบ Pokhara มากกว่า Kathmandu วิวดูสวยกว่าให้บรรยากาศสบายๆ เดินเพลินๆ แต่แปลกมากไม่มีรูปถ่ายตอนเดินเล่นที่ Pokhara เลย สงสัยมัวแต่เพลินกับการเดินชิวมากไปหน่อย ไม่มีรูปจากทุกกล้อง กล้องนัทก็ไม่มีหาไม่เจอ 😂

Day 3 (3 April 2023) : Drive to Nayapul and trek to Tikhedhunga??? (1,577m/5,173 ft)

วันแรกของการเริ่มเดิน(สักที!!) ตื่นเช้าเหมือนเดิมออกมากินอาหารเช้าประมาณ 07:30 อาหารที่โรงแรมก็คือดูดีมาก

กินข้าวเสร็จก็นั่งรถไป Nayapul ต่อ คือแค่นั่งรถเห็นภูเขาหิมะลูกใหญ่ๆขนาดนี้ก็คือว้าวมากๆแล้วนะ ในรูปอาจดูเฉยๆ แต่ตอนเห็นของจริงนี่ตาเป็นประกายมาก เกิดมาไม่เคยเห็นภูเขาที่ลูกใหญ่ขนาดนี้มาก่อน เด็กน้อยมากๆฉัน 😅

แพลนของวันนี้ก็คือเดินให้ไปถึง Tikhedhunga เขาบอกใช้เวลาเดินประมาณ 4 hrs ช่วงแรกๆก็จะเป็นเดินเรียบถนนแบบนี้ไปก่อน

สักพักก็จะเป็นถนนลูกลัง คือเป็นถนนแบบนี้ไปยาวมากๆ ต้องคอยหลบทั้งรถบัส รถ Jeep ของคนที่จะไปเดิน ABC ตลอดทั้งทาง ในใจก็ได้แต่คิดว่าทำไม Agency ไม่บอกว่ามีรถ Jeep ให้นั่งได้แค่จ่ายเงินเพิ่ม ยอมจ่ายนะ 5555555 คือเวลารถมาเสียวมากกลัวจะโดนเบียดตกเขาจริงๆ

พอหมดทางลูกลังเราก็มาแวะกินข้าวกลางวันกัน

วิวระหว่างทางที่เดินก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นเดินขึ้นบันใดรัวๆแล้วจ้า แต่ช่วงวันแรกยังเป็นการเดินขึ้นแบบผ่านหมู่บ้านไปเรื่อยๆ

วันนี้ทำเวลาได้ดีถึง Tikhedhunga เร็วกว่าที่คิด ซีว่าเลยถามว่าอยากเดินต่อไหมพวกเราก็ตกลงเดินกันต่อ แต่พอเดินเลยไปอีกสักชั่วโมงสองชั่วโมงมั้ง นัทก็คือไม่ไหวแล้วเป็นตระคริว จำไม่ได้แล้วว่าซีว่าอยากพาเดินไปถึงตรงไหน เลยคุยกับซีว่า ว่าถ้าเจอที่พักถัดไปแล้วขอพักที่นั่นเลยนะ ฮ่าๆ

สภาพก่อนเป็นตระคริว ห้องพักคืนแรก ที่พักเป็นแบบห้องน้ำรวม ส้วมซึมแบบนั่งยองๆ โอเคนะไม่แย่มาก

สรุปผลประกอบการวันนี้จาก Garmin เดินไป 11 km ใช้เวลาทั้งหมด 4:30 hrs โอเคสำหรับเราเดินเรื่อยๆ ชิวๆ แต่ไม่ชอบเดินขึ้นบันไดเลยค่ะ 😂

จบแล้วสำหรับ Part 1 ถ้ายังสนุกกับการอ่านอยู่ไปต่อกันที่ 👉 Part 2 👈 ได้เลย!!